การปฏิบัติตามวิธีในการใช้รถโฟล์คลิฟท์ที่ถูกต้อง จะช่วยให้ผู้ขับขี่รถโฟล์คลิฟท์สามารถทำงานได้อย่างปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ ช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุได้ ในบทความนี้จะพาไปรู้จักกับรถโฟล์คลิฟท์ รวมถึงกฎระเบียบ และความปลอดภัยในการใช้รถโฟล์คลิฟท์ที่ถูกต้อง
มาทำความรู้จักรถโฟล์คลิฟท์กันให้มากขึ้น
รถโฟล์คลิฟท์ (Forklift) คือ เครื่องจักรกลที่ใช้สำหรับยกและขนย้ายสิ่งของที่มีขนาดใหญ่และหนักเกินกว่ากำลังคนจะยกได้ โดยมีอุปกรณ์สำคัญที่เรียกว่า “งา” ยื่นออกมาจากโครงสร้างหลักของตัวรถเพื่อใช้สำหรับวางและยกสิ่งของ ก่อนทำการเคลื่อนย้ายโดยอาศัยกลไกการทำงานในรูปแบบต่าง ๆ
6 ประโยชน์ของการใช้รถโฟล์คลิฟท์
- เป็นเครื่องทุ่นแรง : รถโฟล์คลิฟท์สามารถช่วยยกและขนย้ายสินค้าที่มีขนาดใหญ่และมีน้ำหนักมากได้
- ประหยัดเวลาและแรงงาน : รถโฟล์คลิฟท์สามารถเคลื่อนย้ายสิ่งของได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ จึงช่วยลดเวลาในการทำงานของพนักงาน
- ลดต้นทุนแรงงาน : รถโฟล์คลิฟท์สามารถทำงานแทนคนได้บางส่วน จึงช่วยลดต้นทุนในการจ้างแรงงาน
- มีประโยชน์ในอุตสาหกรรมและการผลิต : รถโฟล์คลิฟท์สามารถนำมาใช้งานได้หลากหลายสภาพแวดล้อม เช่น ในโรงงานอุตสาหกรรมและคลังสินค้า ทั้งในกระบวนการผลิต การขนถ่ายสินค้าเข้าออก การจัดเก็บสินค้า จึงช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน ลดต้นทุน และป้องกันอันตรายจากการทำงาน
- ไม่ก่อให้เกิดมลพิษทางอากาศ : รถโฟล์คลิฟท์ที่ใช้พลังงานไฟฟ้าในการขับเคลื่อน ทำให้ไม่มีการเผาไหม้เชื้อเพลิง ไม่มีควันพิษ ไม่มีกลิ่นเหม็น จึงเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ช่วยลดมลพิษทางอากาศและช่วยปกป้องสุขภาพของพนักงาน รวมถึงชุมชนรอบ ๆ โรงงานด้วย
- ช่วยเพิ่มความปลอดภัยในการทำงาน : รถโฟล์คลิฟท์มีอุปกรณ์ความปลอดภัยต่าง ๆ ที่ช่วยป้องกันอุบัติเหตุ เช่น ไฟสัญญาณเตือน เบรกฉุกเฉิน เป็นต้น
การเตรียมตัวก่อนใช้งานรถโฟล์คลิฟท์
กฎระเบียบและความปลอดภัยในการใช้รถโฟล์คลิฟท์ เป็นสิ่งสำคัญในการเตรียมตัวก่อนใช้งานรถที่ถูกต้อง ซึ่งจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานได้เป็นอย่างดี โดยผู้ขับขี่สามารถดำเนินการได้ดังนี้
- ศึกษาการใช้งานที่ถูกต้อง : สำหรับผู้ขับขี่รถโฟล์คลิฟท์ควรทำการศึกษาเรื่องพื้นฐานในการขับรถประเภทนี้ ซึ่งเป็นทักษะจำเป็นก่อนปฏิบัติงานจริง เช่น การเข้าเกียร์ การใช้คันโยก การขึ้นหน้าหรือถอยหลัง รวมถึงเรียนรู้กับระบบขับเคลื่อนต่าง ๆ ให้เชี่ยวชาญ เป็นต้น
- ตรวจสอบความพร้อมของรถ : ควรตรวจสอบสภาพเครื่องยนต์กับอุปกรณ์ต่าง ๆ ก่อนใช้งานรถทุกครั้ง เพื่อให้แน่ใจว่ารถโฟล์คลิฟท์อยู่ในสถานะที่พร้อมใช้งาน แต่หากพบว่ามีส่วนไหนชำรุดก็ควรรีบซ่อมแซมก่อน
- สวมใส่อุปกรณ์ป้องกันความปลอดภัย : ก่อนใช้งานรถโฟล์คลิฟท์ทุกครั้ง ควรสวมใส่อุปกรณ์ป้องกันส่วนบุคคล (PPE) เพื่อป้องกันอันตรายที่อาจเกิดขึ้น เช่น หมวกนิรภัย แว่นตานิรภัย รองเท้านิรภัย ถุงมือนิรภัย และเสื้อสะท้อนแสง
- ฝึกอบรมการใช้งานรถโฟล์คลิฟท์อย่างถูกต้อง : ผู้ขับขี่รถโฟล์คลิฟท์ควรได้รับการฝึกอบรมเรื่องการใช้งานอย่างถูกต้องจากเจ้าหน้าที่ที่มีความชำนาญ เพื่อเรียนรู้เกี่ยวกับกฎระเบียบ และความปลอดภัยในการใช้รถโฟล์คลิฟท์
- ดำเนินตามกฎจราจรภายในโรงงาน : ภายในโรงงานอุตสาหกรรมหรือคลังสินค้า จะมีการกำหนดกฎระเบียบ กฎจราจรภายในโรงงาน เพื่อความปลอดภัยของผู้ขับขี่และบุคคลรอบข้าง ในการใช้รถโฟล์คลิฟท์ โดยผู้ใช้งานควรปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด
วิธีในการใช้รถโฟล์คลิฟท์ที่ถูกต้อง
- การขึ้นรถ : ควรขึ้นรถโฟล์คลิฟท์จากด้านซ้ายเสมอ โดยใช้บันไดด้านข้าง ซึ่งเมื่อขึ้นรถแล้ว แนะนำให้ปรับที่นั่งกับตำแหน่งที่เหมาะสมกับสรีระ พร้อมรัดเข็มขัดนิรภัยให้แน่น เพื่อความปลอดภัย
- การสตาร์ตรถ : ก่อนสตาร์ตรถ ควรตรวจสอบรอบ ๆ ว่าอยู่ในสภาพปกติ จากนั้นใส่กุญแจและบิดไปที่ตำแหน่งสตาร์ต เหยียบคลัตช์จนสุด เพื่อตัดกำลังจากเครื่องยนต์ไปยังล้อ จากนั้นเหยียบคันเร่งเล็กน้อย เพื่อเป็นการสตาร์ตเครื่องยนต์ และเมื่อเครื่องยนต์สตาร์ตติดแล้ว ให้ปล่อยคลัตช์อย่างช้า ๆ เพื่อให้รถเคลื่อนที่
- การขับขี่รถ : ข้อสำคัญของกฎระเบียบ และความปลอดภัยในการใช้รถโฟล์คลิฟท์ คือ ผู้ขับขี่ควรมีสมาธิจดจ่ออยู่กับการขับขี่ตลอดเวลา รวมถึงควรมองรอบตัวอย่างระมัดระวัง และใช้ความเร็วที่เหมาะสมเพื่อหลีกเลี่ยงสิ่งกีดขวางหรือบุคคลอื่น ๆ
- การยกและขนย้ายสินค้า : สำหรับการใช้งาเพื่อยกสินค้า ควรทำการจัดตำแหน่งสินค้าบนงาให้สมดุลและอยู่ในแนวตรง เพื่อให้สินค้าไม่เอียงหรือพลิกคว่ำ จากนั้นควบคุมความเร็วให้เหมาะสมกับสภาพพื้นที่และปริมาณสินค้าที่ต้องบรรทุก และวางสินค้าลงโดยลดงาลงจนชิดพื้นอย่างมั่นคง
- การลงจากรถโฟล์คลิฟท์ : หลังดับเครื่องยนต์เพื่อปิดการทำงานแล้ว สามารถลงจากรถด้านซ้าย โดยใช้มือจับบันไดทั้งสองข้างเพื่อความปลอดภัย ก่อนปิดประตูรถด้านซ้ายให้เรียบร้อย
การดูแลรถโฟล์คลิฟท์ให้ใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- ตรวจสอบสภาพภายนอก ว่ามีความพร้อมก่อนใช้งานทุกครั้ง
- ตรวจสอบสภาพภายใน เช่น น้ำมันเครื่อง น้ำมันเกียร์ น้ำในหม้อน้ำ และของเหลวอื่น ๆ ให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม
- ตรวจสอบความสมบูรณ์ของแบตเตอรี สำหรับการใช้รถโฟล์คลิฟท์ไฟฟ้า แบตเตอรี่ต้องเต็ม แต่ถ้าแบตเตอรี่ต่ำกว่า 15% ควรนำไปชาร์จทันที ไม่ควรมีความร้อนทั้งที่ยังไม่ได้สตาร์ทรถ และห้ามใช้งานในขณะชาร์จไฟอยู่
- ตรวจสอบสภาพยางและเติมลมยางในปริมาณที่เหมาะสม
- ศึกษาและเข้าใจในเรื่องกฎระเบียบ และความปลอดภัยในการใช้รถโฟล์คลิฟท์อยู่เสมอ
- ทำการซ่อมแซมหรือเปลี่ยนอะไหล่เมื่อพบอะไหล่ที่ชำรุด
- ทำความสะอาดรถโฟล์คลิฟท์ทั้งภายในและภายนอกเป็นประจำ
จะเห็นได้ว่ารถโฟล์คลิฟท์เป็นเครื่องจักรที่มีความสำคัญอย่างยิ่งในอุตสาหกรรมต่าง ๆ ดังนั้นควรทำตามกฎระเบียบ และความปลอดภัยในการใช้รถโฟล์คลิฟท์ที่ถูกต้องอยู่เสมอ และสำหรับผู้ประกอบการที่มีความสนใจนำรถโฟล์คลิฟท์ไปใช้ในการทำธุรกิจ ที่ O.C.R เรามีจำหน่ายรถโฟล์คลิฟท์ไฟฟ้า ที่เหมาะกับทุกการทำงาน ช่วยประหยัดพลังงาน และลดต้นทุนได้ สนใจติดต่อ Call Center: 02-430-5555